หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วิจารณ์ "ฝนตกขึ้นฟ้า"

           
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของนักเขียนคุณภาพ นามปากกา วินทร์ เลียววาริณ ที่เรื่องสั้นของเขาได้รับรางวัลซีไรต์ถึงสองเรื่อง วันนี้เรื่องสั้นของวินทร์ ได้ถูกหยิบมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว โดยการนำมาทำเป็นภาพยนตร์ โดยเรื่องสั้นที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์นั้นก็คือ "ฝนตกขึ้นฟ้า" โดยผู้กำกับอินดี้ เป็นเอก รัตนเรือง
            หลังจากตัดสินใจเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ในฐานะของคนไม่เคยอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้มาก่อนทำให้ผู้เขียนไม่ทราบถึงเรื่องราวของเรื่องก่อนชมนัก จากชื่อหนังและตัวอย่าง พระเอกมองกลับหัว เห็นฝนตกขึ้นฟ้า ซึ่งไม่ค่อยจะเป็นประเด็นสักเท่าไหร่ในเรื่อง เพราะไม่มีฉากที่ฝนตกขึ้นฟ้าสักฉาก ในเรื่องพระเอกเป็นตำรวจที่ยึดมั่นในความถูกต้อง ไม่รับสินบนจากตัวโกง จึงถูกตัวโกงจัดฉากให้พระเอกฆ่ากะหรี่ และถูกแบล็กเมล์ แต่ทว่าเขายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ของเขา แต่จนแล้วจนรอดเขาก็โดนเล่นงานจนเข้าคุก และคุกก็กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง ไม่นานกะหรี่ที่เขาคิดว่าตายไปแล้วมาเยี่ยมที่เรื่อนจำ และบอกความจริงทั้งหมดว่าเป็นการจัดฉาก พอเขาพ้นโทษ เขากับกะหรี่ก็ชอบพลอกันและจะขอแต่งงานโดยไม่แยแสว่าใครจะว่าอย่างไร อนิจจากะหรี่โดนฆ่าตายเสียก่อน
         ก่อนพ้นโทษ ระหว่างที่พระเอกอยู่ในคุก เขาเขียนจดหมายถึงปิศาจ ผู้เขียนหนังสือความยุติธรรมไม่มีจริงซึ่งตรงกับชีวิตเขาในขณะนั้น ปิศาจเป็นหมอที่รับจ้างฆ่าคนและได้มาเสนองานให้กับพระเอก แต่พระเอกปฏิเสธไปในตอนนั้น และเมื่อกะหรี่ตาย เงินหมด เขาจึงตัดสินใจรับงานจากปิศาจและออกไปเป็นมือปืน

        ฉากพระยิงรัฐมนตรี ฉากนี้เป็นฉากที่พระเอกลงทุนโกนหัว ห่มผ้าเหลือง แล้วรับบิณบาตรกับรัฐมนตรีที่ถูกหมายหัว ใส่บาตรเสร็จ พระชักปืนยิงในระยะประชิด แล้ววิ่งหนี แต่กรรมจริงๆ พระโดนยิงที่หัว
เหมือนชื่อเรื่องในภาษาอังกฤษที่ว่า "Headshot"
        หลังจากนั้นพระเอกก็ถูกส่งไปยังคลีนิกของปิศาจ นายจ้างของเขา สามเดือนจากนี้เขาตื่นมาพร้อมกับการมองเห็นที่พิศดารกว่าเก่า เขาเห็นฝนตกขึ้นฟ้า ทุกอย่างกลับหัว

        หลังจากนั้นเขาก็ถูกเล่นงานจากลูกรัฐมนตรีคนที่เขาไปฆ่า เขาหนีไปกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาจี้รถเธอไป เขาหนีไปบวชเป็นพระ แต่กรรมสนองลูกรัฐมนตรีตามมาฆ่าถึงวัด เขาก็สึกหนีอีกและมากับผู้หญิงคนเดิม ช่างบังเอิญเสียจริงๆเลย ความมาแตกตอนท้าย อีผู้หญิงคนนี้ก็เป็นลูกรัฐมนตรีเหมือนกัน ทุกอย่างเป็นการจัดฉาก ท้ายสุดพระเอกฆ่าตัวโกงตาย และหนีไปบวช ตอนท้ายถูกยิงที่หัวเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าใครยิง จบ
       หนังเป็นสไตล์ของเป็นเอก ถ้าใครเคยดูจะรู้ว่ามันเนิบๆนาบๆ ไม่มีจุดน่าตื่นเต้นเท่าไหร่
 สรุปว่าหนังจะเป็นอย่างไรก็เชิญผู้อ่านเข้าไปลองดูหนังไทยสักเรื่องหนึ่งแล้วก็ลองพิจารณาดูว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรแก่ท่านบ้าง

1 ความคิดเห็น: