หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เรื่องย่อ It Get Better ไม่ได้ขอให้มารัก ฉาย 14 กุมภาพันธ์ 2555


เรื่องย่อ It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก ฉาย 14 กุมภาพันธ์ 2555


เรื่องราวของคู่รักสามคู่ ซึ่งแต่ละคู่ก็ไม่ใช่ความรักที่เป็นแบบธรรมดานัก สามคู่ล้วนแต่เป็นผู้ชายทั้งสิ้น แต่แตกต่างไปตามสถานะที่เลือกเป็น เรื่องราวของหนังเรื่องนี้เป็นการเดินทางมาเจอกันของคนแต่ละละคน ตามเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆนี้ก็นำพาไปสู่ความรักที่มีต่อกัน


คู่แรก สายธาร รับบทโดย ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล กระเทยแปลงเพศรุ่นแม่ หน้าตาเหมือนนางเอกหนังยุค 80 เดินทางท่องเที่ยวในภาคเหนือจนพบกับ ไฟ รับบทโดย ปั้นจั่น วง nice to meet you ที่เขาสองคนพบกันโดยอุบัติเหตุ และสายธารก็พยายามทำให้ไฟยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นให้ได้

คู่ที่สอง ต้นไม้ รับบทโดย ซาหริ่ม ภานุพงษ์ วงสปินเฮด หนุ่มน่าตาดีเดินทางกลับจากต่างประเทศเพื่อมาจัดการกับ บาร์เกย์ ซึ่งเป็นมรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ เขาคิดจะปิดกิจการบาร์เกย์นี่ซะแล้วก็จะกลับไปเมืองนอก ทว่าเขาได้ตกหลุมรักกับสาวประเภทสองทอมบอย คนขับรถตู้ของบาร์ซะก่อน รับบทโดย เบล นันทิตา จาก Thailand’s got talent  เขาจะยอมรับกับสาวประเภทสองซึ่งเคยเป็นผู้ชายมาก่อนได้หรือไม่ และเขาจะทำอย่างไรกับความสับสนที่เกิดขึ้นในใจเขา


คู่ที่สาม เรื่องราวของ ดิน ชายหนุ่มซึ่งพ่อจับได้ว่ามีแนวโน้มจะเป็นตุ๊ด รับบทโดย นิค พาวิช ทรัพรุ่งโรจน์ ถูกส่งไปวัดให้บวชเพื่อฝึกความเป็นชาย เมื่อเขาก้าวเข้ามาในร่มกาสาวพักแล้ว เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากพระพี่เลี้ยงอย่างดี หลวงพี่แสง รับบทโดย อาร์ กฤษตฌาพนธ์ ธนะวารา จนกลายเป็นว่าพระดินมีความสนิทสนมกับพระแสงเป็นพิเศษ พระดินจะเก็บความรู้สึกไม่ให้แสดงออกเป็นความรักต่อพระแสงอย่างไรเพื่อไม่ให้ชายผ้าเหลืองแปดเปื้อนด้วยความรักเชิงชู้หนุ่มที่มีต่อพระแสง
คู่นี้น่าจะเป็นสิ่งที่น่าวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในสังคมเมืองพุทธที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมอย่างประเทศไทย ที่ได้หยิบยกประเด็นพระร่วมเพศขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าในประเทศไทยมีเรื่องอย่างนี้อยู่จริง
เรื่องราวของสามคู่นี้ช่างมีความอึดอัดและยากที่จะอธิบายต่อสังคมนัก พวกเขาจะสามารถแก้ปัญหาที่มีความกดดันจากสังคมอย่างมากมายต่อเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร
It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก กำกับโดย กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก กำหนดฉาย 14 กุมภาพันธ์ 2555



วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วิจารณ์ "ฝนตกขึ้นฟ้า"

           
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของนักเขียนคุณภาพ นามปากกา วินทร์ เลียววาริณ ที่เรื่องสั้นของเขาได้รับรางวัลซีไรต์ถึงสองเรื่อง วันนี้เรื่องสั้นของวินทร์ ได้ถูกหยิบมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว โดยการนำมาทำเป็นภาพยนตร์ โดยเรื่องสั้นที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์นั้นก็คือ "ฝนตกขึ้นฟ้า" โดยผู้กำกับอินดี้ เป็นเอก รัตนเรือง
            หลังจากตัดสินใจเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ในฐานะของคนไม่เคยอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้มาก่อนทำให้ผู้เขียนไม่ทราบถึงเรื่องราวของเรื่องก่อนชมนัก จากชื่อหนังและตัวอย่าง พระเอกมองกลับหัว เห็นฝนตกขึ้นฟ้า ซึ่งไม่ค่อยจะเป็นประเด็นสักเท่าไหร่ในเรื่อง เพราะไม่มีฉากที่ฝนตกขึ้นฟ้าสักฉาก ในเรื่องพระเอกเป็นตำรวจที่ยึดมั่นในความถูกต้อง ไม่รับสินบนจากตัวโกง จึงถูกตัวโกงจัดฉากให้พระเอกฆ่ากะหรี่ และถูกแบล็กเมล์ แต่ทว่าเขายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ของเขา แต่จนแล้วจนรอดเขาก็โดนเล่นงานจนเข้าคุก และคุกก็กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง ไม่นานกะหรี่ที่เขาคิดว่าตายไปแล้วมาเยี่ยมที่เรื่อนจำ และบอกความจริงทั้งหมดว่าเป็นการจัดฉาก พอเขาพ้นโทษ เขากับกะหรี่ก็ชอบพลอกันและจะขอแต่งงานโดยไม่แยแสว่าใครจะว่าอย่างไร อนิจจากะหรี่โดนฆ่าตายเสียก่อน
         ก่อนพ้นโทษ ระหว่างที่พระเอกอยู่ในคุก เขาเขียนจดหมายถึงปิศาจ ผู้เขียนหนังสือความยุติธรรมไม่มีจริงซึ่งตรงกับชีวิตเขาในขณะนั้น ปิศาจเป็นหมอที่รับจ้างฆ่าคนและได้มาเสนองานให้กับพระเอก แต่พระเอกปฏิเสธไปในตอนนั้น และเมื่อกะหรี่ตาย เงินหมด เขาจึงตัดสินใจรับงานจากปิศาจและออกไปเป็นมือปืน

        ฉากพระยิงรัฐมนตรี ฉากนี้เป็นฉากที่พระเอกลงทุนโกนหัว ห่มผ้าเหลือง แล้วรับบิณบาตรกับรัฐมนตรีที่ถูกหมายหัว ใส่บาตรเสร็จ พระชักปืนยิงในระยะประชิด แล้ววิ่งหนี แต่กรรมจริงๆ พระโดนยิงที่หัว
เหมือนชื่อเรื่องในภาษาอังกฤษที่ว่า "Headshot"
        หลังจากนั้นพระเอกก็ถูกส่งไปยังคลีนิกของปิศาจ นายจ้างของเขา สามเดือนจากนี้เขาตื่นมาพร้อมกับการมองเห็นที่พิศดารกว่าเก่า เขาเห็นฝนตกขึ้นฟ้า ทุกอย่างกลับหัว

        หลังจากนั้นเขาก็ถูกเล่นงานจากลูกรัฐมนตรีคนที่เขาไปฆ่า เขาหนีไปกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาจี้รถเธอไป เขาหนีไปบวชเป็นพระ แต่กรรมสนองลูกรัฐมนตรีตามมาฆ่าถึงวัด เขาก็สึกหนีอีกและมากับผู้หญิงคนเดิม ช่างบังเอิญเสียจริงๆเลย ความมาแตกตอนท้าย อีผู้หญิงคนนี้ก็เป็นลูกรัฐมนตรีเหมือนกัน ทุกอย่างเป็นการจัดฉาก ท้ายสุดพระเอกฆ่าตัวโกงตาย และหนีไปบวช ตอนท้ายถูกยิงที่หัวเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าใครยิง จบ
       หนังเป็นสไตล์ของเป็นเอก ถ้าใครเคยดูจะรู้ว่ามันเนิบๆนาบๆ ไม่มีจุดน่าตื่นเต้นเท่าไหร่
 สรุปว่าหนังจะเป็นอย่างไรก็เชิญผู้อ่านเข้าไปลองดูหนังไทยสักเรื่องหนึ่งแล้วก็ลองพิจารณาดูว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรแก่ท่านบ้าง